MENU
|
.. ..
|
ประวัติวัดทองทั่ว
สถานที่ตั้ง
เลขที่ ๓๕ หมู่ ๔ ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
ประวัติความเป็นมา
................วัดทองทั่ว เป็นวัดเก่าแก่ลำดับที่ ๑๒ ของบรรดาวัดในจังหวัดจันทบุรี
สร้างในยุคเมืองจันทบุรีตั้งอยู่บริเวณใกล้วัดนี้ ยังมีหลักฐานกำแพงเมืองปรากฏอยู่ใกล้วัด
มีหลักฐานเก่าให้เชื่อได้ว่าเป็นวัดโบราณ อาทิ ในเสมาของอุโบสถเก่าเป็นแบบ "ใบเสมาคู่"
วัดนี้มีพระพุทธรูปหล่อทองสัมฤทธิ์องค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปสมัย
อยุธยาตอนปลาย
.................จากตำนานเล่ากันมา สมัยเมืองจันทบุรีตั้งอยู่หน้าเขาสระบาป พระนางกาไวได้เป็นผู้สำเร็จการแทนโอรส
ซึ่งยังทรงพระเยาว์ ต่อมาโอรสของพระเหสีองค์เดิมได้กรีฑาทัพมาตีเมืองจันทบุรี พระนางกาไวเห็นว่าสู้ไม่ได้
ทรงเอาทองออกมาหว่านล่อทหารข้าศึกให้พะวงเครื่องอัญมณี พระนางจึงหนีได้สะดวก สถานที่หว่านทองต่อมาเรียกว่า
"ทองทั่วหรือโคกทองทั่ว" เมื่อสร้างวัดนี้เสร็จจึงชื่อว่า "วัดทองทั่ว"
..................วัดทองทั่ว มีเนื้อที่ ๒๔ ไร่ ๓ งาน ๒ ตารางวา มีอาณาเขตติดต่อกับธารน้ำไหลจากเขาสระบาปด้านทิศใต้
ส่วนที่เหลือติดกับที่ของเอกชน มีสิ่งก่อสร้างได้แก่ อุโบสถ สร้าง พ.ศ. ๒๕๒๔ ศาลาการเปรียญ
กุฏิสงฆ์ ๗ หลัง เป็นไม้ และหอระฆัง โบราณสถาน ได้แก่ อุโบสถหลังเก่าและเจดีย์เก่าแก่
และมีโบราณวัตถุสมัย
ขอมซึ่งทางวัดได้รวบรวมไว้ในโบสถ์หลังเก่าหลายชิ้น
ความสำคัญต่อชุมชน
..................วัดทองทั่ว เป็นศูนย์กลางของชุมชนในอดีต ปัจจุบันเป็นศาสนสถานสำหรับพุทธศาสนิกชน
และศูนย์รวมของชุมชนในด้านประเพณีทางศาสนา การศึกษา เพราะในบริเวณวัดมีโรงเรียนของสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี
ซึ่งสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์อารยธรรมใน
สมัยโบราณ และประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
..................วัดทองทั่ว เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งมีพระอุโบสถและเจดีย์อายุเกือบ
๒๐๐ ปี ตัวโบสถ์มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๓ เมตรครึ่ง มีเฉลียงยื่นทางหน้าและหลังอีกด้านละ
๒ เมตรครึ่ง ตัวโบสถ์ตั้งเป็นแนวเดียวกับเจดีย์ด้านหลัง และมีเจดีย์ด้านหน้า ซึ่งตั้งอยู่เยื้องไปทางขวาเล็กน้อย
ลักษณะของโบสถ์ เป็นอาคารทรงไม่สูง ผนังก่ออิฐถือปูน ผนังเดิมเป็นการฉาบปูนพื้นบ้าน
ปัจจุบันได้มีการซ่อมส่วนฐานและผนังที่ชำรุด มีประตูเข้าด้านหน้า ๒ ประตู ด้านหลัง
๒ ประตู หน้าต่างด้านละ ๓ บาน การตกแต่งประตู-หน้าต่าง มีลักษณะโค้งประดับในส่วนบนด้วยการปั้นปูนและช่องผนังเป็นลักษณะโค้งมน
หลังคา เป็นโครงสร้างไม้ทรงจั่ว มุงกระเบื้องกาบกล้วยในตอนบน ในส่วนล่างมีการบูรณะเปลี่ยนเครื่องมุงใหม่เป็นกระเบื้องว่าว
ซึ่งมีตัวกลอนและระแนงรองรับกระเบื้อง มีเสาไม้กลม ๘ ต้น เอียงสอบรับโครงสร้าง
...................จากลักษณะทั่วไป ๆ ไป ถึงแม้ตัวโบสถ์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคหลังก็ยังคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกร่องรอยในการที่จะศึกษาต่อไป
จากหลักฐานข้างเคียงมีใบเสมาหินทรายซึ่งฝังอยู่ในลักษณะคู่ทั้ง ๔ มุมของโบสถ์แต่ละอันมีรูปแกะสลักหิน
ซึ่งเป็นรูปแบบตามคติวัดหลวงในอดีต ด้านหน้าและ
หลังมีเจดีย์ทรงระฆังกลมซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคตินิยมในการสร้างเจดีย์ในสมัยรัชกาลที่
๔ ถึงรัชกาลที่ ๕ ซึ่งเป็นทรงพระราชนิยม
วัดทองทั่วในปัจจุบันนี้ นอกจากจะมีโบสถ์อายุเกือบ ๒๐๐ ปี แล้วยังเป็นแหล่งสะสมหลักฐานทางศิลปะสายวัฒนธรรมเขมรไว้จำนวนหนึ่ง
ซึ่งมีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์อารยธรรมเขมรเป็นอย่างดี เดิมโบราณวัตถุเก็บไว้ใต้ศาลาการเปรียญหรือกุฏิสงฆ์
ต่อมาทางวัดได้นำมาตั้งไว้รอบโคนต้นมะขาม
ใหญ่อายุนับร้อยปี ซึ่งอยู่หน้ากุฏิพระสงฆ์ โดยการก่อปูนขึ้นมาเป็นฐานแล้วยึดติดโบราณวัตถุเหล่านี้เอาไว้
ปัจจุบันได้นำมาไว้ที่อุโบสถหลังเก่า ได้แก่
๑. ทับหลังแบบศิลปถาลาบริวัติ นับว่าเป็นองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมแบบถาลาบริวัติที่เก่าที่สุด
ในประเทศไทย
๒. ทับหลังแบบศิลปไพรกเมง
๓. เสาอิงประดับกรอบประตู หินทรายขาว แบบศิลปถาลาบริวัติ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
๒๕ เซนติเมตร
๔. เสาอิงประดับกรอบประตูรูปแปดเหลี่ยม หินทรายสีเทาแบบศิลปะนครวัดตอนปลาย
๕. ภาพลักษณ์ลายเส้นพระพิฆเณศร และงวง หูช้าง หิน เป็นประติมากรรมอายุประมาณพุทธศตวรรษที่
๑๗-๑๘
..................นอกจากนี้ ในบริเวณวัดทองทั่วเองก็ยังมีโกลนแห่งทับหลัง หรือกรอบประตูหน้าโบสถ์ฐานโยนิ
และสิงห์ หินสลักที่เริ่มขึ้นโกลน หรือถูกดินฟ้าอากาศชะจนจนสึกกร่อนเป็นโกลน จนไม่สามารถอ่านรายละเอียดได้
เส้นทางเข้าสู่วัดทองทั่ว
...................จากตัวเมืองจันทบุรี ไปตามถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข ๓) สายจันทบุรี-ตราดประมาณ
๓ กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองจันทบุรีจะเห็นป้ายบอกทาง เลี้ยวขวาไปตามถนนเข้าวัดและหมู่บ้านประมาณ
๑ กิโลเมตร