MENU
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม l webbord | คำคมนักปราชญ์| ตำนานพื้นบ้าน | รักษ์ดนตรีไทย | มวยไทย | ภาพศิลป์ไทย | สินค้าฝากขาย | เทคนิคโปรแกรม | ที่นี่มีแต่ของฟรี | ลิ้งค์สุดยอด | ติดต่อเรา |
....

จังหวัดตรัง

ตำนานเขาเจ้าไหม

................เมื่อครั้งที่โต๊ะฮ้าหวา (โต๊ะปังกะหวา) เป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่ที่เกาะลิบงนั้น ที่บ้านทุ่งค่าย (ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ใกล้บ้านพระม่วง) ก็มีพระยางอกเขี้ยวเป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่ ซึ่งเจ้าเมืองทั้งสองนี้เป็น สหายที่รักกันมาก ต่อมาไม่นานก็มีนายสำเภาชาวจีน ชื่อเจ้าไหมเดินเรือเข้ามาค้าขายกับเมืองทั้งสอง และเกิดชอบทำเล บริเวณฝั่งตรงข้ามกับเกาะลิบง (บ้านเจ้าไหมในปัจจุบัน) จึงได้ขออนุญาตต่อโต๊ะฮ้าหวา เจ้าเมืองลิบงตั้งบ้าน เรือนขึ้นสำหรับเป็นท่าเรือค้าขาย ต่อมาเจ้าไหมได้เกิดความคิดที่จะเป็นใหญ่ในแถบนี้แต่เพียงผู้เดียว จึงได้ยุยงให้พระยางอกเขี้ยว เจ้าเมืองทุ่งค่ายเกลียดชังโต๊ะฮ้าหวา จนทำให้พระยางอกเขี้ยวเกิดความเข้าใจผิดกับโต๊ะฮ้าหวาตามคำยุยง ของเจ้าไหม ในที่สุดพระยางอกเขี้ยวก็ได้ร่วมกันกับเจ้าไหมยกทัพเข้าทำสงครามกับโต๊ะฮ้าหวา สงครามผ่าน ไปนานแต่ไม่มีใครสามารถเอาแพ้ชนะกันได้ ข่าวสงครามนี้ทราบไปถึงโต๊ะละหมัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่พระยางอกเขี้ยว และโต๊ะฮ้าหวา เคารพนับถือ
มาก ท่านจึงเดินทางมาเจรจาให้พระยางอกเขี้ยวยุติสงครามกับโต๊ะฮ้าหวา ทำให้เจ้าไหมเกิดความไม่พอใจ โต๊ะละหมัยเป็นอย่างมาก และประกาศไม่ยอมเลิกการสู้รบกับโต๊ะฮ้าหวา การกระทำของเจ้าไหมครั้งนี้ทำให้โต๊ะละหมัยโกรธมาก จึงได้สาปให้เจ้าไหมกลายเป็นหิน ซึ่งต่อมาได้
กลายเป็นภูเขาที่เรียกกันว่า "เขาเจ้าไหม" จนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อเจ้าไหมถูกสาปแล้วโต๊ะละหมัยก็ได้บัญชาให้โต๊ะฮ้าหวา กับพระยางอกเขี้ยวคืนดีกัน และยกให้โต๊ะ
ฮ้าหวาเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว เมื่อมีบัญชาเช่นนั้นโต๊ะฮ้าหวาก็ได้ใช้เท้าถีบแสดงความเป็นเจ้าของแผ่นดิน ไว้บนผนังถ้ำที่เขาโต๊ะแหนะ ปัจจุบันรอยเท้ายังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน


คติและแนวคิด
๑. ตำนานเรื่องนี้เป็นตำนานเชิงประวัติศาสตร์ ที่มีเนื้อหาเกินความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่แก่นของเรื่อง ได้ชี้ให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของเมืองบนเกาะลิบงในอดีต และเป็นเมืองที่มีการค้าขายกับชาวต่างชาติด้วย
๒. การไม่รู้จักบุญคุณคนทำให้เกิดความวิบัติได้ ดังตัวอย่างของชาวจีนเจ้าไหมที่มาอาศัยแผ่นดินเกาะลิบง แล้วยุยงให้สหายแตกแยก จนในที่สุดตนเองต้องถูกสาปเป็นหิน
๓. การเป็นคนหูเบา เชื่อผู้อื่นโดยไม่ฟังเหตุผล ทำให้เกิดความเสียหายได้