ตำนานเจดีย์หลวงพ่อหนอน

...................หลวงพ่อหนอนหรือหลวงพ่อทวดหนอน มีประวัติเล่าสืบต่อกันมาว่าท่านเป็นพระภิกษุในสมัย กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในครั้งที่พระเจ้าหงสาวดีกษัตริย์แห่งพม่า ได้ยกกองทัพมาสู้รบกับกองทัพของ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ท่านได้ออกสู้รบร่วมกับกองทัพของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ โดยได้แปลงเพศเป็น ชีปะขาว เมื่อเสร็จศึกท่านได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ จากสมเด็จพระมหาจักรพรรดิให้เป็น "พระครูอินทโมลี" ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ภายหลังท่านได้ออกธุดงค์ และมาทางภาคใต้ โดยอาศัยเรือสำเภาของพ่อค้า และในขณะเดินทางนั้น ท่านได้มองเห็นฝูงปลาว่ายตามเรือที่ท่านโดยสารมา ท่านจึงเชือดเนื้อของท่านให้เป็นทานแก่ปลาฝูงนั้น เมื่อเรือสำเภาเทียบท่าที่เมืองปัตตานี ท่านได้ออกธุดงค์
ไปถึงเขามะรวดและได้พำนักอยู่ที่นั่น บาดแผลที่เกิดจากการเชือดเนื้อเพื่อเป็นทานแก่ฝูงปลาได้เน่าเปื่อยมี หนอนชอนไช โดยที่ท่านไม่ยอมรับการรักษาจากชาวบ้านที่พบเห็น ด้วยเหตุนี้เองชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า "หลวงพ่อหนอน" เล่ากันว่า ในขณะที่ท่านพำนักอยู่บนเขามะรวดนั้น ท่านได้เลี้ยงสุนัขและแมวไว้คู่หนึ่ง เมื่อท่านอาพาธ
หนัก ไม่สามารถลงมาบิณฑบาตได้ สุนัขกับแมวคู่นี้จะพากันคาบย่ามลงมาจากยอดเขาเพื่อรับอาหารจาก ชาวบ้านไปถวายแด่หลวงพ่อหนอนทุกวัน
หลวงพ่อหนอนท่านมรณภาพในท่านั่งสมาธิ บำเพ็ญญาณบนแท่นหินบนหน้าผาบนยอดเขามะรวด ต่อมาชาวบ้านแถบนั้นได้ช่วยกันสร้างสถูปบรรจุอัฐิของท่าน ไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของชาวพุทธสืบไป สถูป ที่บรรจุอัฐิของท่าน ชาวบ้านเรียกกันว่า "เจดีย์หลวงพ่อหนอน"
คุณค่า / แนวคิด /สาระ
......................เจดีย์หลวงพ่อหนอน เป็นนิทานที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมา โดยเนื้อเรื่องได้เล่าถึงที่มาของการสร้างเจดีย์ หลวงพ่อหนอน ซึ่งสร้างมาจากคามรักและศรัทธาและเพื่อสักการะบูชา เจดีย์หลวงพ่อหนอนตั้งอยู่บนยอด เขามะรวด การเดินทางขึ้นไปสักการะ เป็นไปด้วยความลำบาก ปัจจุบันได้มีการสร้างถนนจากเชิงเขามะรวด ขึ้นไปยังบริเวณที่ตั้งของเจดีย์หลวงพ่อหนอน และเมื่อถึงเดือน ๓ ของทุกปี ชาวไทยพุทธก็จะขึ้นไปนมัสการ
เจดีย์หลวงพ่อหนอนดังคำขวัญที่ว่า "เดือนสามของทุกปีขึ้นไหว้เจดีย์หลวงพ่อหนอน"