MENU
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม l webbord | ตำนานพื้นบ้าน | ติดต่อเรา |
.. ..

พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) หรือหลวงปู่ศุข


ประวัติ
...............พระครูวิมลคุณากร (ศุข) ถือกำเนิดในตระกูล "เกศเวชสุริยา" โดยมีคุณพ่อน่วม เกศเวชสุริยา เป็นโยมบิดา คุณแม่ทองดี เกศเวชสุริยา เป็นโยมมารดา เมื่อปีฉลู พุทธศักราช ๒๓๙๐ ที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัด ชัยนาท มีพี่น้องรวมบิดามารดาเดียวกัน รวม ๙ คน
คนแรก พระครูวิมคุณากร (ศุข)
คนที่ ๒ นางอำ
คนที่ ๓ นายลุง
คนที่ ๔ นายไข
คนที่ ๕ นายสิน
คนที่ ๖ นายมี
คนที่ ๗ นายขำ
คนที่ ๘ นายพลอย
คนที่ ๙ หลวงพ่อปลื้ม (เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า องค์ต่อมาจากหลวงปู่ศุข)
...............ครอบครัวท่านพักอาศัยอยู่เขตอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ประกอบอาชีพค้าขายและทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอดมา และแต่งงานกับ นางสาวสมบูรณ์ ที่จังหวัดนนทบุรี และมีลูกชายชื่อ นายสอน เกตุเวชสุริยา
...............เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ก็อุปสมบทที่วัดโพธิ์ทองล่าง โดยมีพระอาจารย์เชย จันทศิริ เจ้าอาวาสวัด โพธิ์ทองล่างเป็นอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เชย ได้คอยสั่งสอนชี้แนะแนวทางต่าง ๆ ในการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน แนวทางแห่งกสิณ วิธีสร้างสมาธิให้กับหลวงปู่ได้ศึกษาและปฏิบัติ พร้อมทั้งคอยกำกับ
ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสอนเขียนอ่านอักษรขอม พร้อมทั้งวิชาไสยศาสตร์ เวทย์มนต์คาถา การปลุกเสก อธิษฐานต่าง ๆ ให้กับหลวงปู่ ประกอบด้วยเพื่อเป็นทางอันหนึ่ง ที่จะช่วยให้สมาธิบังเกิด ความแน่วแน่เป็น เอกอัตตารมณ์เร็วยิ่งขึ้น หลวงปู่ศุขเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ทางด้านไสยศาสตร์เป็นอย่างมากอยู่แล้ว ท่านจึงเล่า เรียนและสามารถทำของปลุกเสกได้ขลังและศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็วเป็นที่พอใจของพระอาจารย์เชยเป็น อย่างมาก
................นอกจากนี้หลวงปู่ศุข ได้ไปพำนักที่วัดสามง่าม อำเภอปทุมวัน และวัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้เริ่มธุดงค์ไปในท้องที่ไกลชุมชน ในป่าเขาลำเนาไพร แสวงหาความวิเวกเพื่อบำเพ็ญญาณสมาธิ และแสวงหาหนทางแห่งปัญญาเพื่อความหลุดพ้นต่อไป พ.ศ. ๒๔๓๕ได้เดินทางผ่านจังหวัดชัยนาท จึงได้แวะ
เข้าไปที่อำเภอวัดสิงห์ เพื่อเยี่ยมเยียนโยมมารดา และญาติสนิทมิตรสหายของท่านซึ่งได้จากไปตั้งแต่ยังอยู่ใน วัยแรกรุ่น จึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่อยู่จำ พรรษาที่วัดมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านนั่นเอง บรรดาญาติโยมคน รู้จักแวะเวียนมาพบปะสนทนาและกราบไหว้เป็นประจำ เมื่อมีเรื่องเดือดร้อนใจท่านก็ใช้วิชาความรู้เท่าที่มี
ปัดเป่าไปในทุก ๆ รายไป บางรายที่ต้องเดินทางไปค้าขายในต่างถิ่น ท่านก็จะให้ศีลให้พร ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ เพื่อให้แคล้วคลาดจาก ภยัยอันตรายและค้าขายได้กำไรกลับมา ประกอบกับหลวงปู่ศุขมี ศีลจริยาวัตรที่น่าเลื่อมใสและความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ทำให้บรรดาชาวเรือที่ผ่านหน้าวัดของท่าน
เมื่อมีโอกาสก็จะหยุดพักเพื่อขึ้นมานมัสการกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัว และขอวัตถุมงคลไว้คุ้มครอง ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และเพื่อให้การทำมาค้าขายได้ผลดี วัตถุมงคลของหลวงปู่ศุข มีพลังแห่งพลานุภาพที่ปรากฏแก่บรรดาชาวเรือ จนเป็นที่โจษขานไปทั่วไป
พรที่ท่านให้ขลังสมเจตนา ของผู้ที่ได้รับ ในช่วงตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ เป็นต้นมา
................ ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงปู่ศุข ในความขลังและ ศักดิ์สิทธิ์ ในด้านวิชาอาคมไสยศาสตร์ต่าง ๆ เป็นที่รู้จักและศรัทธาแก่ผู้คนในเขตท้องถิ่นต่าง ๆ ทั้งจังหวัดใกล้ และไกล และในกรุงเทพมหานคร เมื่อท่านเดินทางไปกรุงเทพมหานคร ท่านจะพำนักในวังของกรมหลวง ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งได้จัดสร้างเป็นกุฎิหลังเล็ก ๆ ไว้ริมสระภายในวังของพระองค์, วัดสามง่าม อำเภอ ปทุมวัน และที่วัดอนงคาราม เพื่อปฏิสันถารกับสมเด็จพระ พุฒาจารย์ (นวม) ซึ่งเป็นที่สนิทสนมคุ้นเคยกัน และกันอย่างยิ่งองค์หนึ่ง หลวงปู่ศุข หรือพระครูวิมลคุณากร ปรมาจารย์ผู้ยิ่งยงแห่งสำนักวัดมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัด ชัยนาท ผู้มีชื่อเสียงเกียรติคุณทางด้านไสยศาสตร์อิทธิปาฏิหารย์ในทุก ๆ ด้าน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ ถึงแก่กาลมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ด้วยโรคชรา ขณะอายุของท่านได้ ๗๖ ปี การจากไป ของหลวงปู่ศุข ยังความเศร้าโศกอาลัย และเสียใจอย่างสุดซึ้งมาสู่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา และผู้ที่มีความเคารพ ศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง